Strawberry On Top Of Cupcake
RSS
Post Icon


แมวพันธุ์สิงหะปุระ (Singapura)

       ฟังชื่อแล้วแมวพันธุ์นี้ดูไปคล้อง ๆ กับประเทศสิงคโปร์ใช่ไหมละคะ เป็นแมวสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนักในไทยเท่าไหร่ แล้วคุณทราบไหมว่าแมวสิงหปุระนั้นมีขนาดเล็กที่สุดในโลกสำหรับแมวพันธุ์แท้เลยนะ ว่าแต่แมวสิงหะปุระนี่มันเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์รึเปล่า  และความน่ารักของมันนี่ขนาดไหนกัน  ขอบอกว่าแมวพันธุ์นี้น่ารักสุด ๆ ไปรู้จักมันกันเลยดีกว่าค่ะ




  •  ถิ่นกำเนิด  จากประเทศสิงคโปร์  ประเทศใกล้บ้านเรากันนี่แหละค่ะ  เป็นแมวสายพันธุ์แท้ที่ได้ถูกนะมาพัฒนาในประเทศอเมริกาจนเป็นที่ยอมรับ
  • ลักษณะ     เป็นแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์แท้ทั้งหลาย แถมมันยังมีดวงตาและใบหูที่ใหญ่โตซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดูน่ารักมาก ๆ  ลักษณะมันคล้ายกับแมวพันธุ์อะบิซิเนียนเลยนะคะ แต่ถ้าดูให้ดีแล้วมีเพียงหูที่ใหญ่เหมือนกันเท่านั้น นอกนั้นจะแตกต่างหมด  สีขนของมันคือสี sepia agouti เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือสีน้ำตาลเข้มที่กระจายอยู่บนสีพื้นสีงาช้างตลอดด้านบนของลำตัว  หางมีความยางปกติ  แต่เท้าของมันมีขนาดเล็กกว่าแมวทั่วไป  สีตาของแมวพันธุ์นี้มีทั้งสีน้ำตาลแดง สีเขียวหรือสีเหลือง



  • อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบก่อกวนผู้คน เรียกว่ามันขี้เล่นสุด ๆ เลยคะ แถมขี้อ้อนชอบให้คนสนใจ บางครั้งก็ชอบมานั่งตักเพื่อเรียกร้องความสนใจ  แถมมันยังขี้สงสัย  เรียกว่าเป็นแมวที่ฉลาดและมีสัญชาตญาณของการเป็นผู้ล่าอย่างเต็มตัว  เรียกว่าเหมาะกับคนที่ชอบเล่นซุกซนกับเจ้าแมว และต้องการมีเพื่อนรักเป็นสัตว์เลี้ยงมาก ๆ เลยคะ


  • การดูแล  แมวขนสั้นเรียกว่าแปรงขนก็ง่ายอยู่แล้วใช่ไหมคะ การเลี้ยงดูส่วนใหญ่ก็ง่ายเช่นกันค่ะ ส่วนเรื่องที่ต้องแนะนำเป็นพิเศษก็คือ มันเป็นแมวขี้เล่น  มึความเป็นนักล่า  ควรหาของเล่นไว้ให้มันเยอะ ๆ นะคะ  และระวังเรื่องการขีดข่วนฟอร์นิเจอร์ของคุณด้วยมันออกจะซุกซนอะเนอะ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Post Icon

แมวพันธุ์แมงซ์ (Manx)


แมวพันธุ์แมงซ์ (Manx)

แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะ  แต่โดยภาพรวมของแมวแมงซ์นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่หางของมันซึ่งไม่เหมือนกับพันธุ์แมวอื่น ๆ อย่างแน่นอนมาทำความรู้จักกับมันหน่อยดีกว่า






  • ถิ่นกำเนิด  ประเทศอังกฤษ
  • สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดจากการกลายพันธุ์  โดยตอนแรกนั้นมันเป็นแมวสายพันธุ์แมวบ้านนี่แหละค่ะที่เกิดบนเกาะอังกฤษ  แล้วกลายพันธุ์จนทำให้หางมันหดสั้นลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นแมวสายพันธุ์แมงซ์ขึ้น
  • ลักษณะ    เป็นแมวขนาดกลาง ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้คือมีขาหลังที่ยาวกว่าขาหน้า  หัวกลม และหางสั้นมากจนถึงบางตัวดูเหมือนไม่มีหาง  ดูไปดูมาแมวพันธุ์นี้มีลักษระคล้ายกระต่ายเลยค่ะ มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว



  • อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบเข้าสังคมและอยู่กับผู้คนได้ดี  แต่มันจะขี้อายกับคนแปลกหน้า  สายพันธุ์นี้เป็นแมวที่ฉลาดมากระดับ 5 ดาวและขี้เล่นคล้ายนิสัยของสุนัข  เป็นแมวที่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้ดีกว่าแมวหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมากเลยด้วยค่ะ
  • การดูแล  แมวแมงซ์ต้องการแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วออกไป  การดูแลตัดเล็บ แปรงฟันและพาไปพบสัตวแพทย์เหมือนแมวปกติ  แต่ปัญหาเรื่องสุขภาพอาจจะเกิดกับสายพันธุ์นี้ได้เพราะมักมีปัญหากระโรคสันหลังบกพร่องจากการกลายพันธุ์ของมัน ทำให้เกิดการสั่งการกับระบบประสาทที่ผิดปกติ  และลูกแมวพันธุ์แมงซ์ที่เป็นโรคนี้จะตายภายใน 6 เดือน เพราะฉะนั้นถ้าคุณได้แมวที่มีใบรับประกันแล้วละก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นไปหรอกค่ะ




ราคาแมวพันธุ์นี้หาในเว็บไทยเท่าไหร่ก็หาไม่เจอค่ะ  สงสัยเพราะเป็นแมวที่หายากและการเกิดโรคกับลูกแมวก็มีโอกาสสูงจึงทำให้ไม่ค่อยมีคนไทยรับเอามาเพาะพันธุ์ขายสักเท่าไหร่มั้งค่ะ  แต่อยากจะทดสอบความฉลาดของแมวพันธุ์นี้จัง  สงสัยคงต้องไปทดสอบกันไกลถึงต่างประเทศเลยละค่ะ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Post Icon

แมวทราย (sand cat)


แมวทราย  (Sand cat)


          ของแมวทราย (Sand cat) นั้นกล่าวได้ว่าเป็นแมวป่าขนาดเล็กกระจายอยู่ตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย มีขนาดลำตัวยาว 39-57 เซนติเมตร หนัก 1.4-3.4 กิโลกรัม มีขนยาวที่เพิ่มขึ้นระหว่างนิ้วเท้า สามารถอาศัยอยู่ได้ในอุณภูมิตั้งแต่ -ถึง 52 องศาเซลเซียส สามารถอดน้ำได้เป็นเดือนโดยอาศัยน้ำที่อยู่ในอาหารเท่านั้น   





  • ถิ่นที่อยู่อาศัย  กระจายอยู่ทั่วไปตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย โดยพบมากในแถบทะเลทรายซาฮารา  ทะเลทรายอราเบียน  ทะเลทรายแถบอิหร่านและปากีสถาน
  • สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ชื่อเต็มของมันก็คือ Feris magarita เป็นสัตว์ตระกูลแมวชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย
  • ลักษณะ     แมวทรายเป็นที่มีขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ตัวผู้ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักเพียง 2.1-3.4 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนัก 1.4-3.1 กิโลกรัม   ลำตัวสีน้ำตาลซีดจนถึงเทาอ่อน ขนแน่น หนานุ่ม บริเวณหลังเข้มขึ้นเล็กน้อย หน้าท้องซีดจาง มีลายริ้วจาง ๆ ตามลำตัวและขา มีเส้นสีน้ำตาลแดงพาดที่แก้มตั้งแต่หางตา ครึ่งล่างของหน้าและหน้าอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน ใบหูใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายเรียว สีน้ำตาลอมแดง ปลายหูสีดำ ใบหูอยู่ห่างกันและค่อนมาทางข้างหัว ปลายหางมีปล้องบาง ๆ หลายปล้อง ปลายหางสีดำ ใบหน้ากว้าง ดวงตาใหญ่ อุ้งตีนมีขนยาวหนาแน่นปกคลุม
      แมวทรายเป็นแมวที่เกิดมาเพื่ออยู่ในทะเลทรายอย่างแท้จริง ขนที่คลุมอุ้งตีนช่วยป้องกันความร้อนจากพื้นดินและช่วยเก็บเสียงขณะเดินบนพื้นผิวที่หยาบร่วน เมื่อเดินบนทรายจะแทบไม่ปรากฏรอยตีนเลย ประสาทหูไวมาก เหมาะสำหรับการหาเหยื่อในพื้นที่ที่เหยื่อหายาก คาดว่าแมวทรายได้ยินเสียงอัลตราโซนิกจากเหยื่อที่อยู่ใต้ดินได้เช่นเดียวกับเซอร์วัล





  • อุปนิสัย    แมวทรายปีนป่ายและกระโดดไม่เก่ง แต่เป็นยอดนักขุด ทักษะการขุดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีพในสถานที่ของแมวชนิดนี้  เพราะต้องใช้ในการขุดโพรงเพื่อพักผ่อนและหาเหยื่อ อุ้งเล็บไม่คมมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะการอาศัยในทะเลทรายจึงไม่มีโอกาสได้ฝนเล็บบ่อยนัก เวลาเดินบนพื้นที่โล่ง จะเดินย่องต่ำ ๆ หูที่ใหญ่ช่วยในการค้นหาเสียงจากความเคลื่อนไหวอันแผ่วเบาได้เป็นอย่างดี เหยื่อของแมวทรายได้แก่ เจอร์บิล เจอร์บัว โวล กระต่ายป่า นก สัตว์เลื้อยคลาน และแมลง ศัตรูตามธรรมชาติได้แก่งูพิษ หมาจิ้งจอก และนกเค้าแมวขนาดใหญ่
      แมวทรายหากินเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในโพรงตื้น ๆ ที่ขุดไว้ตามเนินทราย ในดงไม้แคระ หรืออาจนอนอยู่ไม่ไกลจากปากโพรง โดยนอนหงายหลังซึ่งเป็นท่านอนที่ระบายความร้อนได้ดี แมวทรายแต่ละตัวอาจยืมรังใช้กันได้ เมื่อตกค่ำ แมวทรายจะซุ่มสังเกตการณ์อยู่ปากโพรงประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะออกจากโพรงไป แต่ละคืนแมวทรายจะเดินทางเฉลี่ย 5.4 กิโลเมตร เมื่อกลับมาที่รังในตอนรุ่งสางก็จะมาซุ่มสังเกตการณ์ที่ปากโพรงอีกครั้งก่อนจะเข้ารังนอน



  • ทางชีววิทยา   ในทะเลทรายซาฮารา ลูกแมวทรายมักเกิดในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ในเติร์กเมนิสถานลูกแมวเกิดในเดือนเมษายน ในปากีสถานมักเกิดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนในแหล่งเพาะเลี้ยงไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน

             ตั้งท้องนานประมาณ 60-69 วัน ออกลูกคราวละ 1-8 ตัว ปกติ 2-3 ตัว ออกลูกในโพรงหรือหลืบหิน ลูกแมวแรกเกิดหนัก 50-60 กรัม ลืมตาได้เมื่ออายุได้สองสัปดาห์ ลูกแมวทรายพัฒนาเร็วมาก หลังจากเกิดก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 12 กรัม เริ่มออกจากรังได้เมื่ออายุได้ 3-4 สัปดาห์ กินอาหารแข็งได้เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์ เมื่ออายุได้ 3-4 เดือนก็แยกจากแม่ไปหากินเองได้แล้ว และจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้เมื่ออายุได้ 9-14 เดือน ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุได้ถึง 13 ปี



           แมวทรายจัดว่าเป็นสัตว์ที่หายาก และไม่ค่อยพบการนำมาเลี้ยง  แต่ความหายากของมันก็ไม่ได้หมายความว่าแมวพันธุ์นี้จะสูญหายไปได้ง่าย เพราะการที่มันอยู่ในที่ทุรกันดารแช่นนี้จึงทำให้มันปลอดภัยจากอันตรายได้มากพอสมควรคะ  


    ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS